ไม่มีใครมาลิขิตชีวิตเราได้นอกจากตัวเราเอง
 
     
 
ต้นไม้ใคร ๆ ก็รู้ว่าดีมีคุณค่า แต่ปลูกป่าต้องเป็นผืน
การมีต้นไม้อยู่รวมกันจำนวนมากพอ มีความหลากหลายในด้านชนิดพันธุ์ มีโครงสร้างทั้งไม้เด่นไม้รองไม้พุ่มและพืชพื้นล่างอย่างเหมาะสมอยู่ในพื้นที่ จะทำให้เกิดระบบที่ทำหน้าที่ “เป็นป่า”
 

เวลาเราตั้งคำถามกับคนในอาชีพต่าง ๆ ว่า ท่านรักป่าหรือไม่? ท่านรู้ไหมว่าป่านั้นมีประโยชน์ มีคุณค่าอย่างไร? เกือบจะร้อยทั้งร้อยตอบในเชิงบวกทั้งสิ้นว่า ป่าเป็นแหล่งที่มาแห่งปัจจัยสี่ ที่ให้ทั้งอาหาร วัตถุดิบทำเครื่องนุ่งห่ม ใช้ก่อสร้างบ้านเรือน ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไม้สอย ให้สมุนไพรนานาชนิดที่เป็นยารักษาโรคต่าง ๆ  รวมทั้งป่าช่วยให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ช่วยป้องกันน้ำท่วม แต่ถ้าได้พูดคุยต่อไปอีก ก็อาจจะได้ฟังข้อดีของป่าในแง่มุมมองต่าง ๆ อีกมากมายแล้วแต่ประสบการณ์ของผู้ที่ตอบคำถามนั้น ๆ

 

หากท่านติดตามสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับป่าไม้แล้ว ท่านอาจจะสงสัยว่าเหตุใดข่าวในแง่ลบด้านป่าไม้จึงออกมาให้อ่านได้แทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพื้นที่ป่าไม้ลดลง ข่าวการจับกุมการลักลอบตัดไม้มีค่า เช่น ไม้สัก ไม้กฤษณา ไม้พะยูง  ข่าวการจับกุมชาวบ้านบุกรุกพื้นที่ป่านำไปทำการเกษตร ทำสวนยางพาราและพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ ข่าวการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาตินำไปทำรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ และข่าวอื่น ๆ ในเชิงลบต่อการอนุรักษ์ป่าไม้อีกมากมาย ทั้ง ๆ ที่หากไปตั้งคำถามกับผู้คนที่เกี่ยวข้องกับข่าวเหล่านั้น ก็คงจะได้รับคำตอบกลับมาในทำนองเดียวกันในเชิงสนับสนุนให้มีการอนุรักษ์ป่าไม้เพื่อประโยชน์ต่าง ๆ

 

ยกตัวอย่างกรณีการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าในท้องที่อำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งพบว่าหลายสิบรายนำพื้นที่ไปใช้ทำรีสอร์ท หากไปถามเจ้าของรีสอร์ทถึงทัศนคติเกี่ยวกับป่าไม้แล้ว ก็จะได้รับคำตอบว่าการทำรีสอร์ทนั้นเป็นกิจการที่ไม่ใช่เป็นการทำลายป่า เพราะได้นำพื้นที่ป่าซึ่งเสื่อมโทรมแล้วมาใช้ประโยชน์ อีกทั้งได้มีการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นในพื้นที่ช่วยสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น 

 

หรือในกรณีผู้บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำสวนยางพารา ก็อาจจะได้รับคำตอบจากผู้สนับสนุนการปลูกในทำนองเดียวกันว่า การปลูกไม้ยางพารานั้น เป็นการปลูกไม้ยืนต้นที่มีลำต้น กิ่ง ใบ เช่นเดียวกับไม้ป่าอื่น ๆ จึงเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน

 

 

จะเห็นได้ว่า ต่างคนนั้นต่างก็แสดงจุดยืนของการปลูกต้นไม้เพื่อรักษาผลประโยชน์ที่ตนมีอยู่ที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่า การปลูกต้นไม้ใด ๆ เป็นการช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นจะเป็นสิ่งที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า “การมีต้นไม้นั้นมีความสำคัญที่ไม่เท่ากับการมีป่าไม้” โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการสร้างสิ่งแวดล้อมและอำนวยประโยชน์ที่หลากหลายเชิงเศรษฐกิจ

 

 

การมีต้นไม้อยู่รวมกันจำนวนมากพอ มีความหลากหลายในด้านชนิดพันธุ์ มีโครงสร้างทั้งไม้เด่นไม้รองไม้พุ่มและพืชพื้นล่างอย่างเหมาะสมอยู่ในพื้นที่ จะทำให้เกิดระบบที่ทำหน้าที่ “เป็นป่า” คือมีอาหารหลากหลายชนิดสำหรับทั้งคนและสัตว์ป่า มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมสำหรับสัตว์ประเภทต่าง ๆ ที่ชอบอยู่ทั้งบนยอดไม้สูง ๆ ต่ำ ๆ และบนดิน อีกทั้งยังช่วยปกคลุมพื้นดิน และถ้าพรรณไม้ที่ขึ้นอยู่มีความอุดมสมบูรณ์ก็จะมีกิ่งใบจำนวนมาก มีซากพืชบนดินจำนวนมาก เป็นแหล่งกักเก็บน้ำฝนที่ตกลงมาไว้ได้จำนวนหนึ่งก่อนจะปลดปล่อยสู่พื้นที่เบื้องล่าง

 

หน้าที่ของ “ความเป็นป่า” จึงมีความสำคัญมากกว่าการมีแต่เพียงต้นไม้ขึ้นอยู่ในพื้นที่ ซึ่งทุกคนควรตระหนัก และช่วยกันสร้างให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

 

เจ้าของรีสอร์ทที่ครอบครองพื้นที่ที่สงวนไว้ให้เป็นป่า รวมทั้งผู้บุกรุกปลูกพืชเศรษฐกิจ จึงควรตระหนักถึงความสำคัญของ “การทำหน้าที่ป่า” สำหรับกิจการของตนไว้ให้มั่น ผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินในระยะสั้นถึงแม้ว่าจะมีจำนวนมาก และเห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ซึ่งรวม ๆ กันในพื้นที่แล้วอาจจะมีจำนวนถึงหลายพันล้านบาทต่อปี แต่หากกิจการเหล่านั้นทำให้ระบบนิเวศขาดซึ่งหน้าที่ความเป็นป่า ก็อาจจะส่งผลกระทบทำให้เกิดความเสียคณานับต่อส่วนรวม ไม่อาจเทียบได้กับประโยชน์ส่วนบุคคลที่ได้รับในทุก ๆ ปี

 

ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งที่ดินเป็นของรัฐไม่สามารถนำไปออกเอกสารสิทธิ์ให้เอกชนได้อยู่ถึงร้อยละ 45 โดยมีนโยบายให้มีพื้นที่ป่าปกคลุมอย่างหนาแน่นร้อยละ 40 หรือประมาณ 128 ล้านไร่ โดยเป็นป่าอนุรักษ์ร้อยละ 25 และป่าเศรษฐกิจร้อยละ 15 ในปัจจุบันจากสถิติของกรมป่าไม้พบว่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาตินั้นมีพื้นที่ที่เป็นป่าปกคลุมอยู่เพียงร้อยละ 33 หรือประมาณ 105 ล้านไร่ จึงเห็นได้ว่าพื้นที่ที่ต้องฟื้นฟูให้เป็นป่าปกคลุมในเขตป่าสงวนแห่งชาติมีอยู่ไม่น้อยกว่า 23 ล้านไร่ ซึ่งเป็นภาระกิจที่หนักมากสำหรับกรมป่าไม้ที่จะทำได้โดยลำพัง เพราะต้องใช้ทั้งงบประมาณไม่น้อยกว่าสองแสนล้านบาท ต้องใช้ทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปลูกและบำรุงรักษา ต้องใช้การเสียสละจากผู้ที่ครอบครองพื้นที่ป่าในการนำพื้นที่มาใช้ในการฟื้นฟู

 

อีกทั้ง แนวคิดของการปลูกต้นไม้ให้เป็นป่านั้น จะต้องไม่สร้างผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนที่เกี่ยวพันกับการทำมาหากินในพื้นที่ป่า รูปแบบการปลูกจึงมิใช่แต่เพียงการปลูกสวนป่า แต่ยังรวมไปถึงการปลูกในระบบวนเกษตร ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ว่างในชุมชน และการจัดการพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้เป็นป่าชุมชน

 

 รัฐต้องเอาจริงเอาจัง มีมาตรการณ์ต่าง ๆ ออกมาตั้งแต่ การกำหนดพื้นที่ส่งเสริมการปลูกไม้ยืนต้น การฟื้นฟูป่าให้ชัดเจน ให้เป็นผืนต่อเนื่องและกว้างขวางเพียงพอ เพื่อส่งเสริมให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะภาคเอกชนที่ปัจจุบันมีนโยบายที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคม หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า CSR ต้องพิจารณาสิ่งจูงใจต่าง ๆ ในการมีส่วนร่วมทั้งมาตรการณ์ภาษีที่ดิน หรือการยกเว้นภาษีที่ดินซึ่งทำหน้าที่ของความเป็นป่า อีกทั้งต้องทำความเข้าใจมาตรการณ์ส่งเสริมในระดับโลกที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกป่าในระบบกลไกพัฒนาสะอาด (Clean Development Mechanism) การจัดการป่าเพื่อลดการปลดปล่อยกาซเรือนกระจก (REDD- Reducing Emission from Deforestation and Forest Degradation) ซึ่งมีรายละเอียดที่สังคมส่วนใหญ่ยังไม่รับรู้มากนัก

 

ในยุคนี้ ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรับข่าวสารและสิทธิต่าง ๆ ในทรัพย์สินสาธารณะ ในเมื่อทรัพยากรป่าไม้ของชาติได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ส่วนตนแล้วก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม ทุกภาคส่วนจึงควรมีส่วนร่วมในการสร้างทัศนคติ ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อร่วมมือสร้างสรรค์ ฟื้นฟูทรัพยากรที่เสื่อมโทรมให้กลับเป็นระบบนิเวศที่มั่นคง เพื่อสังคมไทยยั่งยืน ชาวโลกให้ความชื่นชม

 

อยากเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนหันมาสนใจการปลูกต้นไม้มาก ๆ ให้ทำหน้าที่ได้เช่นเดียวกับป่า มิใช่แต่เพียงมีจิตสำนักถึงคุณค่าของต้นไม้แต่เพียงเท่านั้น


Last updated: 2015-11-24 12:43:13


@ ต้นไม้ใคร ๆ ก็รู้ว่าดีมีคุณค่า แต่ปลูกป่าต้องเป็นผืน
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ ต้นไม้ใคร ๆ ก็รู้ว่าดีมีคุณค่า แต่ปลูกป่าต้องเป็นผืน
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
3,012

Your IP-Address: 18.97.14.86/ Users: 
3,011