ทำงานให้มองฟ้า เป็นอยู่ให้มองดิน
 
     
 
สวดมนต์ป่าไม้
ในวงการป่าไม้ก็เพียงประสงค์ให้ผู้ไปร่วมพิธีได้มีการปรับเปลี่ยนจิตใจที่มุ่งใฝ่ธรรมที่แท้จริงให้เกิดคุณค่าแก่องค์กร ก็จะมีอานิสงส์ถึงบุคลากรและทรัพยากรป่าไม้ในภาพรวมอย่างแน่แท้
 

 

•ชาวป่าไม้หลายคนมุ่งผลนัก

ต่างพร้อมพรักจัดหาผ้าชุดขาว

ร่วมสวดมนต์ข้ามปีที่เกรียวกราว

เน้นเรื่องราวเล่าต่อขอพรกัน

•อยากช่วยลดอุบัติเหตุอาเพศภัย

หมายสิ้นไปเกรงว่าอายุสั้น

หวังอยู่ต่อทำงานไปนานวัน

ได้เฉิดฉันโดดเด่นเช่นดารา

•ทั้งเกิดภูมิที่คุ้มกันเกินพิกัด

ช่วยขจัดเหล่ามารที่หาญกล้า

ผงาดตัวชัดเจนเห็นขึ้นมา

อาจเลื่อยขาเข้าแย่งตำแหน่งไป

•อีกช่วยปกป้องตัวห่างชั่วร้าย

ที่กระหน่ำกล้ำกรายทั้งไกลใกล้

ล้างเวรกรรมทำมาพาขุ่นใจ

เพื่อลูกน้องผองเจ้านายเอื้อไมตรี

•ที่หวังมากเหลือล้นจนกระสัน

ให้ตัวนั้นเกิดมงคลอันล้นปรี่

อยากประสบพบยิ่งล้วนสิ่งดี

ตลอดปีผ่านพ้นจนวันตาย

•ทั้งที่การสวดมนต์เกิดผลนัก

ต้องตระหนักสร้างสรรค์มุ่งมั่นหมาย

หมั่นทำดีทั้งละชั่วทั่วใจกาย

สิ่งเลวร้ายความระยำกลัวกรรมเวร

•เลิกเสียทีที่ชั่วช้ากับป่าไม้

เรียกเงินทองของใช้อาศัยเส้น

หยุดระบบรีดไถหมายเปอร์เซ็นต์

หันมาเน้นคุณธรรมนำองค์กร

•หากสวดมนต์ข้ามปีมิสวดใจ

ยังเปี่ยมไว้มืดคล้ำดำเหมือนก่อน

ชาวป่าไม้ยากประสบได้พบพร

โอ้อาวรณ์อาลัยค่าผ้าขาวนัก

•ครูนิด วนศาสตร์ (ชมรมสีเสียดแก่น)

www.lookforest.com

แรงดลใจ:

ได้เห็นภาพของชาวป่าไม้ทาง facebook หลายคนที่แสดงความปีติในการร่วมสวดมนต์ข้ามปีให้เกิดความฉงนบางอย่างอยู่ในใจเพราะบางคนที่รู้จักไม่น่าเชื่อว่าจะมีจิตศรัทธาถึงขั้นนี้หรือเขาอาจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไป  กับทั้งเมื่อเช้าระหว่างเดินออกกำลังกับลูกชายซึ่งก็ได้ไปร่วมพิธีนี้มาด้วยเช่นกัน  ได้มีคำถามว่าพิธีนี้มีมานานหรือยัง และมีความสำคัญอย่างไร ก็ได้แต่ตอบไปว่าน่าจะมีมาเมื่อไม่นาน เพราะสมัยก่อนก็ไม่เคยได้ยินคำนี้ ส่วนความสำคัญไม่รู้จริงๆ คิดได้แต่เพียงว่าช่วยลดการดื่มเหล้าสังสรรค์ไปได้ทางหนึ่งอย่างแน่นอน  จึงได้ลองค้นคว้าข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

                สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้อธิบายว่าการสวดมนต์ข้ามปีเป็นประเพณีนิยมของชาวไทยมาแต่เดิม โดยก่อนสิ้นปีพระสงฆ์จะไปเจริญพระพุทธมนต์บทนพเคราะห์ที่กรมประชาสัมพันธ์ จากนั้นรอเวลาจนถึงเที่ยงคืน เพื่อเจริญพระพุทธมนต์บทชัยมงคลคาถา ออกอากาศไปทั่วประเทศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ต่อมาเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์  ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้นำพระสงฆ์วัดสระเกศประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปีขึ้น ณ พระอุโบสถวัดสระเกศ โดยอนุวัตรตามโบราณพระราชประเพณีแห่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 เคยประกอบพิธีในช่วงเทศกาลสงกรานต์อันเป็นประเพณีปีใหม่ของไทยที่มีมาแต่เดิม การสวดมนต์ข้ามปีจึงถึงได้ว่าเริ่มจัดขึ้นที่วัดสระเกศวรมหาวิหารเป็นครั้งแรก ซึ่งในปีพุทธศักราช 2549 กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายได้เห็นความสำคัญของการสวดมนต์ข้ามปี จึงได้ร่วมกับคณะสงฆ์วัดสระเกศจัดสวดมนต์ข้ามปีขึ้นอย่าเป็นทางการ ต่อมาคณะสงฆ์มีความเห็นร่วมกันว่าการสวดมนต์ข้ามปีเป็นที่นิยมของประชาชนอย่างแพร่หลาย และเป็นค่านิยมที่งดงาม ควรแก่การส่งเสริมที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อเดือนธันวาคม 2553 ณ ตำหนักสมเด็จฯ วัดสระเกศ จึงได้มีมติให้วัดทุกวัดจัดสวดมนต์ข้ามปีโดยมีความสำคัญดังนี้

                1.ช่วยให้จิตเป็นสมาธิ เพราะขณะนั้นผู้สวดต้องสำรวมใจแน่วแน่ มิฉะนั้นจะสวดผิดท่อนผิดทำนอง เมื่อจิตเป็นสมาธิความสงบเยือกเย็นในจิตจะเกิดขึ้น

                2.เป็นการกระทำที่ได้ปัญญา ถ้าการสวดมนต์โดยรู้คำแปล รู้ความหมาย ก็ย่อมทำให้ผู้สวดได้ปัญญาความรู้

                3.เป็นการตัดความเห็นแก่ตัว เพราในขณะนั้นอารมณ์จะไปหน่วงอยู่ที่การสวดมนต์อย่างตั้งใจ ไม่ได้คิดถึงตัวเอง ความโลภ โกรธ หลง จึงมิได้เกิดขึ้นในจิตตน

                4.เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนและบริวาร

                5.สามารถไล่ความขี้เกียจได้ เพราะขณะสวดมนต์ อารมณ์เบื่อ เซื่องซึม ง่วงนอน เกียจคร้านจะหมดไปและเกิดความแช่มชื่นกระฉับกระเฉงขึ้น

                6.เปรียบเสมือนการได้เฝ้าพระพุทธเจ้า เพราะขณะนั้นผู้สวดมีกายวาจาปรกติ(มีศีล) มีใจแน่วแน่(มีสมาธิ) มีความรู้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า(มีปัญญา) เท่ากับได้เฝ้าพระองค์ด้วยการปฏิบัติบูชาครบไตรสิกขาอย่างแท้จริง

                ในขณะที่ท่านพระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ได้ให้ข้อคิดหลักธรรมเกี่ยวกับอานิสงส์หรือผลที่ได้รับจากการสวดมนต์ข้ามปีไว้ดังนี้

                1.ลดความเสี่ยงจากอบายมุข อุบัติเหตุ และความชั่วร้าย

                2.เป็นการทำบุญใหญ่ให้กับชีวิต ทั้งทางกาย ทางจิต และทางปัญญา

                3.เป็นการส่งท้ายด้วยธรรมะและต้อนรับด้วยศีล

                4.เป็นการสร้างบรรยากาศรู้เช่นเห็นจริงในสัจธรรม

                5.เริ่มต้นชีวิตด้วยสิ่งที่เป็นสิริมงคล อันจะส่งผลให้ได้พบสิ่งที่เป็นมงคลตลอดทั้งปี

                ทั้งนี้  เชื่อว่าแต่ละคนที่ไปร่วมการสวดมนต์ข้ามปีคงมีเหตุผลหรือต้องการประโยชน์ที่แตกต่างกันไป  อาจนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้นก็ได้  สำหรับในวงการป่าไม้ก็เพียงประสงค์ให้ผู้ไปร่วมพิธีได้มีการปรับเปลี่ยนจิตใจที่มุ่งใฝ่ธรรมที่แท้จริงให้เกิดคุณค่าแก่องค์กร ก็จะมีอานิสงส์ถึงบุคลากรและทรัพยากรป่าไม้ในภาพรวมอย่างแน่แท้

               

               


Last updated: 2017-01-02 15:17:26


@ สวดมนต์ป่าไม้
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ สวดมนต์ป่าไม้
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
1,444

Your IP-Address: 18.97.14.86/ Users: 
1,307