วันนั้นเป็นวันอะไร วันที่เท่าไหร่ข้าพเจ้าจำไม่ได้ จำได้แต่ว่าพวกเราทุกคนได้รับข่าวดีว่ากรมฯมีการเปิดสอบนักวิชาการป่าไม้ตรี ทำให้ทุกคนที่หงอยเริ่มเหมือนกับต้นไม้ที่ได้รับฝน แรกใบที่เคยแห้งเหี่ยวเริ่มเบ่งบาน.......ทำไมจะไม่ดีใจ ยิ่งกว่าฟางเส้นสุดท้ายในลำน้ำเสียอีก มีลุ้นแล้วข่าวเริ่มแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าลมไซโคลน.......น้ำฝนหยาดสุดท้ายจริง ๆ พวกเราทุคนเกือบหมดหวังและหมดแรงกันแล้วพระเจ้าช่วย........!
เทพ สูตร เราไปดูประกาศกันเถอะว่าเขาสอบวิชาอะไรบ้าง
ข้าพเจ้ารีบชวนเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน 4-5 คน ไปดูประกาศแล้วก็จดสาระสำคัญอันเป็นประโยชน์เพื่อที่จะได้ไปเตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมตำรา เพื่อลงสนามแห่งความเป็นความตาย.......เพื่อความอยู่รอด
พวกเราเริ่มทำงานน้อยลงต่างคนต่างหาเวลาเป็นของตัวเองเพื่อเพิ่มพูนความรู้ประจุไว้ในสมองให้มากที่สุด สำหรับข้าพเจ้านั้นขอเรียนต่อทุก ๆ ท่านเลยว่าในสมัยเรียนไม่ได้ใส่ใจในการเรียนนัก เกรดก็แย่กว่าทุกคนเพราะมัวแต่ไปสนุกกับงานกิจกรรมเสียมากกว่า งวดนี้เลยต้องเตรียมตัวหนักกว่าเพื่อนหน่อย ข้าพเจ้าขลุกอยู่ในห้องสมุดในวันหนึ่งนานพอสมควร สำหรับเพื่อนสุเทพ เพื่อนวิสูตร เพื่อนรัช นั้นแต่ละคนพอตัวอยู่แล้ว สำหรับเพื่อนสุเทพตอนจบขนาดไม่ได้ทุ่มเทเท่าไรยังคว้าเกรดมาดูเล่น ตั้ง 3.18 เฉียดเกียรตินิยมอันดับสองไปนิดเดียว หลังจากนั้นไม่นานการสอบก็เสร็จสิ้นลง ผู้สมัครสอบมีทั้งรุ่นพี่รวมอยู่ด้วย สอบผ่านข้อกำหนดของกรมรวมร้อยกว่าคนได้บรรจุในรอบแรกไปประมาณ 70-80 คน การบรรจุในครั้งนั้นมีรุ่นเราได้บรรจุรวมไปด้วย 35 คน โดยบรรจุจากหมายเลขตามลำดับ เท่าที่จำได้ในรอบแรกนี้ ได้แยกเพื่อนน้ำมิตรของเราสมาชิกห้องสมุดไปมี สุเทพ ไปอยู่เขตเชียงใหม่ วิสูตร ไปอยู่เขตลำปาง คงเหลือข้าพเจ้า ไพรัช นันทศักดิ์ (ฝิ่น) ยังต้องเฝ้ากองแผนงานอยู่ต่อไปรอรอบสองถ้ามีตำแหน่งแต่เลือนรางเต็มที่ สำหรับเพื่อน ๆ ที่บรรจุไปก่อนที่ไม่ได้เอ่ยนามมา ณ ที่นี้ก็ต้องขอพระอภัยมณี ทุกคนที่บรรจุไปก่อนจะบรรจุในตำแหน่ง นักวิชาการป่าไม้ตรี ซึ่งจะได้กล่าวต่อไปว่ารุ่นต่อไปทำไมจึงบรรจุในตำแหน่งพนักงานป่าไม้ตรี มันเป็นตำนานที่พวกเราน้อยคนนักจะรู้เรื่องจริง ข้าพเจ้าจะเก็บมันไว้กับตัวไปจนวันตายเห็นจะไม่ได้จำเป็นจะต้องเล่าแจ้งแถลงไขให้เพื่อน ๆ ได้รู้ความจริงว่ามีเพื่อน ๆ ที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันจนได้ตำแหน่งมามันยากเข็ญเพียงใดเพื่อเตือนสติตนเองไว้ว่ากว่าเราจะได้สิ่งนี้มา และมายืน ณ จุดนี้ได้อย่างอหังการนั้นเราฝ่าอุปสรรคอะไรมาบ้าง สามัคคีคือพลังจริงเท็จแค่ไหน.......จุดรวมของพวกเราเหล่าบรรดาตกงานทั้งหลายจะอยู่ที่บ้านป้าเมี้ยน นิวาสถานเป็นบ้านไม้สองชั้นเก่า ๆ แบ่งเป็นห้องให้พวกเราเช่าคนที่เช่าเท่าที่จำได้ก็คือเพื่อนสุทัศน์ จูงพงศ์ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว ขอให้วิญญาณของเพื่อนจงไปสู่สุคติเกิดในฐานะหนึ่งในฮีโร่ของเรา เราจะไม่ลืมเลยที่สถานที่ของเพื่อนจะเป็นกองบัญชาการให้พวกเราได้วางแผนตลอดจนได้พักยามเหนื่อยมา บ้านของป้าเมี้ยนอยู่ในซอย ร.ส.พ. ถนนพหลโยธินคิดว่าบรรดานักสู้ผู้กล้าทั้งหลายคงจำกันได้ดี...... ข้าพเจ้า, ไพรัช, นิรันดร์, ลอยชื่น และเพื่อนอีก 2-3 คน ได้ตกลงกันว่าจะรวมตัวกันไปถามที่กองการเจ้าหน้าที่ว่าเรื่องตำแหน่งของพวกเรามีความเคลื่อนไหวไปถึงไหนแล้ว............?
พอวันรุ่งขึ้นพวกเราอันมีข้าพเจ้าขอตั้งตัวเป็นแกนนำหวังว่าเพื่อนคงไม่ว่า และหน่วยกล้าตาย 2-3 คนหลังดังได้กล่าวมาแล้ว รวมกับพรรคพวกเท่าที่ระดมได้ประมาณ 20-30 คน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่พวกต่างจังหวัดเดินทางเข้ากรมฯกันมาก นำขบวนโดยพ่อเล้าเชาวลิต เลิศชยันตี ระดมพลทั้งกองหน้ากองหลังพากันเดินพาเรดไปยืนออกันที่หน้าห้องกองการเจ้าหน้าที่ โดยขอพบหัวหน้ากอง ได้รับคำตอบว่าหัวหน้าไม่อยู่....พวกเราเลยมีมติว่าพบใครก็ได้ที่รักษาการแทน ได้รับคำตอบว่า คุณเทวาอยู่ เราเลยขอนำตัวแทนเข้าพบเพียง 2-3 คน อันได้แก่ข้าพเจ้า, ไพรัช, นิรันดร์, ลอยชื่น......
พวกคุณมีธุระอะไรที่จะพบหัวหน้า ท่านไม่อยู่ไปประชุม
ท่านเทวา รักษาการยิงคำถามใส่พวกเราทันที และดูจะมีสีหน้าไม่ใคร่จะพอใจนัก
ผมอยากจะมาเรียนถามท่านว่า ทางกองการเจ้าหน้าที่ได้ขออัตรากำลังไปยัง ก.พ. แล้วหรือยัง เพราะระยะเวลามันเนิ่นนานมาแล้ว พวกผมตกงาน ถึงแม้กรมฯจะรับเป็นลูกจ้าง แต่พวกเรากว่าจะได้เงินเดือนก็เกือบหกเดือนครั้ง สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวมาก
ข้าพเจ้าได้ทีรีบรายงานความลำบากยากเข็ญโดยพยายามบรรยายให้มีความหน้าสงสารเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ แต่ความจริงมันก็เป็นเช่นนั้น บางคนถึงกับไปช้อนลูกน้ำขายเสริมรายได้ก็มี
ผมขอแจ้งให้กับพวกเราทราบว่า ทางกรมฯไม่ได้มีข้อตกลงกับทบวงมหาวิทยาลัยว่าเมื่อบัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยแล้วจะต้องรับเข้าทำงานที่กรมป่าไม้หมด ไม่เหมือนกับนักศึกษาจากโรงเรียนป่าไม้แพร่ ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดกรมฯ เราจะขอตำแหน่งสำรองไว้ให้เลยเมื่อจบมาแล้วก็บรรจุได้ทันที ซึ่งขณะนี่เรามีโค้วต้าเหลือประมาณ 200 อัตรา สำหรับพวกคุณเราจะพิจารณาตามความจำเป็นหากกรมขาดอัตรากำลังทางด้านวิชาการเราจะขอไป และก็แล้วแต่ว่า ก.พ. จะอนุมัติให้กี่อัตรา
ยังไม่ทันที่คุณเทวา จะพูดจบ ข้าพเจ้ารีบสวนไปทันที
แล้วตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ ขณะนี้กรมฯได้ขอไปแล้วหรือยัง และขอไปเท่าใด
คุณเทวา พอได้รับคำถามแทงใจดำ สีหน้าบอกบุญไม่รับ และตอบแบบไม่เต็มเสียงนักว่า..........
รู้สึกว่าเราจะทำเรื่องขอไปและขอทุกปีด้วย
ว่าแล้วคุณเทวาก็หันไปข้างหลังเรียกคุณเร ซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้มาถาม คุณเร ชื่อจริงว่าเรไร เป็นสุภาพสัตรีวัยกลางคนรีบมานั่งแล้วเริ่มสาธยายกิจกรรมทั้งหลายให้พวกเราฟัง
ตำแหน่งพวกเราพี่ทำเรื่องขอไปทุกปี ปีละหลายอัตรา แต่ ก.พ. ไม่อนุมัติพี่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร
มันเป็นคำตอบสุดท้ายและคำตอบเดียวที่พวกเราทุกคนไม่ว่าใครก็ตามถ้าเข้าไปถามคุณเร จะได้คำตอบเป็นคำตอบคำนี้เท่านั้น หากเล่นเกมเศรษฐีในปัจจุบันคงคว้าเงินล้านไปได้ไม่ยากนัก.....
ข้าพเจ้าได้นำคำตอบมาบอกเล่าให้พวกเราที่รออยู่ข้างนอกทราบ เพื่อนบางคนเพิ่งกลับจากการตีสนุกเกอร์ข้างกรมฯ มาทันพลอยได้รับข่าวไม่สบอารมณ์ไปด้วย...............
พวกเรากลับบ้านป้าตั้งหลักกันใหม่ว่าจะเอาอย่างไรดีง
ข้าพเจ้าส่งเสียงบอกพวกเราที่ว่าง ๆ ให้ไปรวมกันเพื่อยุทธศาสตร์ขั้นต่อไป ปรากฏว่าได้สมัครพรรคพวกแนวร่วมประมาณ 7-8 คน ตกเย็นพอดี เลยหาเสบียงอาหารมาเลี้ยงกันตามมีตามเกิด นั่งล้อมวงสนทนาเพื่อนเชาวลิต เลิศชยันตี ผู้มีเสียงดังฟังชัด วันนี้เหมือนมวยถูกต่อยท้องขาตาย แขนตก เกือบถูกน็อกดีแต่ตีกรรเชียงรอบเวทีเอาตัวรอดมาได้เริ่มโวยต่อ
เฮ้ย ! ทศ เราได้ความคิดใหม่แล้ว ระดมพวกเราให้ได้มากที่สุดพากันเดินขบวนไปพบหัวหน้ากองให้ได้ ขอคำตอบที่ชัดเจนและแน่นอนจะดีกว่า
แล้วเราจะระดมพลพวกเราอย่างไรจึงจะได้มากที่สุด เพราะพวกเราต่างแตกแยกไปทำงานต่างจังหวัดก็ไม่น้อย
ข้าพเจ้าสร้างปุจฉาขึ้นมาทันที
เรามีเพื่อนเป็นนักหนังสือพิมพ์อยู่หลายคนและหลายฉบับ จะไปขอร้องให้ช่วยลงเรียกพวกเรามารวมกันที่กรมฯ ให้ได้มากที่สุดเพราะอาจจะเกิดพลังเพิ่มขึ้นบ้าง
เอาไงเอากัน เราต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแล้วจะมามัวงอมืองอเท้าอยู่ไม่ได้มันเป็นอนาคตของเราทั้งชีวิตทีเดียว
ข้าพเจ้ารีบสนับสนุนเพื่อนเชาวลิตทันที
วันนั้นมันเป็นวันที่เท่าไหร่ไม่ทราบ ข้าพเจ้าไม่ได้ทันทึกมันไว้ หนังสือพิมพ์จำนวนถึง 3 ฉบับต่างลงข้อความในหน้าที่ 4 กรอบขวาด้านล่างสี่เหลี่ยมขนาด 2 คูณ 2 นิ้ว ว่า.........
วน.34 ทุกคนพบกันที่หน้าห้องกองการเจ้าหน้าที่วันที่.....เวลา.....
เมื่อถึงวันตามที่กำหนดการปรากฏว่ามีพวกเราให้ความร่วมมือกันมากประมาณ 30-40 คน พากันเดินจากหน้าตึกไปยังกองการเจ้าหน้าที่ทำให้กรมป่าไม้ในช่วงเวลานั้นวิกฤตพอสมควร..........แต่พอพวกเราไปถึงหน้าห้องกองการเจ้าหน้าที่ทำให้ต้องมีอันเป็นงงไปทันที.....เพราะประตูห้องกองการเจ้าหน้าที่ปิดสนิทใส่กุญแจภายในเรียบร้อยทั้ง ๆ ที่วันนั้นเป็นวันราชการ เจ้าหน้าที่ทุกคนหยุดทำงานหมดเพราะเกรงกลัวพวกเราจะไปกระทำการอันมิควร และในช่วงเวลานั้นมันเป็นเดือนที่เพิ่งผ่านพ้น 16 ตุลาวิปโยคมาใหม่ ๆ พวกเราพอไม่พบเจ้าหน้าที่ก็ล่าถอยตามระเบียบเพราะทำอะไรไม่ได้ เราเพียงแต่ต้องการเจรจาเท่านั้น มิได้คิดเป็นอื่นแต่ทางกองคิดกลัวกันไปเอง.....เมื่อแผนนี้ไม่สำเร็จเราจึงมาปรึกษาหารือกันใหม่ได้ความคิดออกมาว่าเมื่อเราขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของไม่ได้ทำไมไม่ลองไปที่ ก.พ. ดูอาจจะมีทางที่ดีก็ได้ พอได้มติแล้วพวกเราขออาสาสมัครที่จะไปสำนักงานข้าราชการพลเรือน ก.พ. รวบรวมสมัครพรรคพวกได้ประมาณ 8-10 คน บางคนก็ไปรถเมล์ สำหรับข้าพเจ้านั้นได้ไปกับเพื่อนนิรันดร์ ลอยชื่น เพราะเพื่อนเอารถส่วนตัวมารถเต่าคันนี้แหละที่เป็นยานพาหนะแห่งความสำเร็จในเวลาต่อมา พวกเรา 5 คน อัดกันไปกับเจ้าเต่าทองคะนองฤทธิ์คันนี้ เมื่อถึงสำนักงานก.พ. ข้าพเจ้าและเพื่อนไพรัช,นิรันดร์ รีบพากันขึ้นไปบนชั้นสองของสำนักงาน หลังจากที่ได้ทราบจากเจ้าหน้าที่ชั้นล่างว่าผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับตำแหน่งของพวกเราอยู่ชั้นบน เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าท่านชื่อ ดร.วิลาศ ต้องขอประทานโทษที่จำนามสกุลท่านไม่ได้ ท่านเป็นหัวหน้ากองตำแหน่งและอัตราเงินเดือน เมื่อได้ข้อมูลเป็นที่พอใจแล้วเรารีบติดต่อหน้าห้องท่านทันทีว่า นิสิตวนศาสตร์ขอพบท่าน สักครู่หน้าห้องออกมาแจ้งว่าให้ไปรอที่ห้องรับแขก พวกเราจึงพากันไปโดยส่งตัวแทนเพียง 4 คน เท่านั้น และแล้วเราก็พบกับชายหนุ่ม จะเรียกว่าใกล้หนุ่มใหญ่ก็คงจะไม่ผิด อายุคงจะมากกว่าเรา 7-8 ปี หวีผมเรียบร้อยสวมเสื้อแขนยาวสีขาวผูกเน็คไทค์เรียบร้อยเดินเข้ามานั่งที่เบาะตอนหน้าของพวกเราแล้วก็เริ่มสอบถามพวกเราทันที........
น้อง ๆ มีธุระอะไรกับผมหรือ
ท่าทางการนั่งการสอบถามเป็นไปด้วยความกรุณา มิได้แสดงตนว่ามีอำนาจหรือข่มผู้อื่นแต่ประการใด ข้าพเจ้าเห็นพวกเราหันมามองหน้ากันเหมือนส่งซิกน์ว่าใครควรจะเป็นผู้กล่าวแจ้งแถลงไข ทุกคนมองมาที่ข้าพเจ้า ทำให้ทราบว่าหน้าที่นี้เป็นของเราแน่จึงไม่รอช้า..........
ก่อนอื่นผมขอรายงานตัวก่อนว่าพวกเราเป็นนิสิตคณะวนศาสตร์ จบการศึกษาตั้งแต่ปี 2515 ปัจจุบันเป็นลูกจ้างกรมป่าไม้ พวกเราได้สอบขึ้นทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว และก็รอการบรรจุมาเป็นปีแล้ว ทุกคนเดือดร้อนเพราะต้องขอเงินทางบ้านใช้อยู่ สอบถามที่กองการเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้หลายครั้งหลายคราแล้ว เราจะได้แต่คำตอบว่า ก.พ.ไม่อนุมัติตำแหน่งนักวิชาการให้เลย ไม่สามารถบรรจุพวกเราได้ พวกเรามีข้อข้องใจอยากทราบและขอความกรุณาท่านด้วยว่าทางก.พ.มีความคิดอย่างไร
พอสิ้นเสียงของข้าพเจ้า ท่านหัวหน้ากองเริ่มมีสีหน้าแดงขึ้น อาการเหมือนคนกำลังมีโทษะแต่ระงับไว้ด้วยสติของนักบริหารระดับมือโปร......
น้อง ๆ เข้าใจกันผิดไปใหญ่แล้ว ก.พ.ไม่ได้กักอัตรากำลังของกรมกองใดไว้ สำหรับตำแหน่งของน้องนั้น กรมป่าไม้ไม่เคยขอตำแหน่งนักวิชาการมาเลย ทางเราก็เลยไม่รู้จะพิจารณาส่งไปให้อย่างไร
สิ้นเสียงของดร.วิลาศ ความเงียบเริ่มเข้ามาปกคลุมภายในห้องแม้แต่เข็มสักเล่มตก คงจะได้ยินกันทั่วหน้า สงบจริง ๆ ...... แต่มันเป็นเพียงอึดใจหนึ่งเท่านั้นต่อมาได้ยินเสียงพึมพำต่างคนต่างเปล่งเสียงจนฟังไม่ได้ศัพท์..... ข้าพเจ้าตกตลึงไปชั่วขณะนึกแล้วทีเดียวว่าจะต้องมีอะไรสักอย่างหนึ่งเป็นแน่..... ใครพูดความจริงใครโกหกกันแน่ ข้าพเจ้าเริ่มสับสนแล้วและเพื่อไม่ให้เสียมารยาทจึงบอกให้พวกเราหยุดวิภาควิจารณ์กันชั่วคราวก่อน แล้วเริ่มต้นสอบถามหาข้อมูลต่าง ๆ เท่าที่ใจอยากรู้....มันไม่มีประโยชน์อันใดที่จะมาคาดคั้นเอาความจริงจากใคร ต้องมีขบวนการอะไรสักอย่างที่มันผิดพลาด ในใจนึกกลับไปตั้งหลักที่กองบัญชาการก่อนดีกว่า ว่าแล้วก็ขออำลาท่านโดยหยอดความหวังไว้ว่าจะมาพบท่านอีก ท่านก็ใจดีตอบตกลงยินดีให้ความช่วยเหลือหากช่วยได้......
พอกลับมาถึงกองบัญชาการบ้านป้าเมี้ยนจึงได้เริ่มคลี่ปมปริศนาทันที
มันยังไงแล้วละพรรคพวก ไปกรมฯก็บอกว่าก.พ.ไม่อนุมัติตำแหน่ง ไปก.พ.ก็บอกว่ากรมฯไม่เคยขอไป
ปริศนานี้เพื่อนเชาวลิตเป็นผู้จุดประกายประเด็นปัญหาขึ้นมา
เราว่ากรมป่าไม้น่าจะไม่ได้ขอไปจริง ๆ ก็เป็นได้ เพื่อนไพรัชผู้ซึ่งไปถามกองการเจ้าหน้าที่บ่อยกว่าเพื่อนเริ่มวิเคราะห์ปัญหาทันที คงจะเอือมกรมฯเต็มทน
แล้วมีเหตุผลอะไรที่ก.พ.จะไม่อนุมัติตำแหน่ง เพราะก.พ.มีหน้าที่อยู่แล้ว และกรมฯเราก็ขาดอัตรากำลังในตอนนี้ เพื่อนแขก นิรันดร์ เริ่มวิเคราะห์ปัญหาบ้าง
แต่เราไปถามพี่เรที่กรม พี่เธอก็ยันกระต่ายขาเดียวว่า ก.พ.ไม่ให้มาแต่ก็น่าสงสัยเหมือนกันนะเราไม่เคยขอดูหนังสือขอตำแหน่งกรมป่าไม้จากพี่เรเลยสักครั้งเดียว
ข้าพเจ้าเริ่มตั้งข้อสังเกตและให้เหตุผลไปบ้าง........ทันใดนั้นเองข้าพเจ้าเริ่มได้คิดว่า ที่เราไปหาข้อมูลมานี้เป็นการไปคนละครั้ง ถามคนละที ข้อมูลย่อมคลาดเคลื่อน ถ้าเราสามารถจับสองท่านนี้มานั่งพบกันต่อหน้าพวกเราได้ ความจริงทั้งหมดน่าจะกระจ่างเป็นแน่ พอคิดได้เท่านั้นเริ่มเสนอแผนการให้พรรคพวกฟัง ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน.......ปฏิบัติการณ์เริ่มทันที
วันนี้ข้าพเจ้าตื่นเช้าเป็นพิเศษทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนนอนดึก เนื่องจากจิตยังตัดหรือแก้ปัญหาไม่ตก ตื่นเช้าแทนที่จะสดชื่นกลับมึนงง วันนี้นัดเพื่อน ๆ ไว้ที่กรม รีบแต่งตัวออกมายืนรอรถเมล์ ข้าพเจ้าพักอยู่กับพี่ชายที่บางกะปิ จึงจำเป็นต้องตื่นเช้าและต้องต่อรถ 2 ต่อ ถนนลาดพร้าวในสมัยนั้นแย่เอามาก ๆ รถก็ติดทำให้อารมณ์หงุดหงิดง่าย เมื่อถึงกรมฯเกินเข้ากรมฯก่อนขึ้นบันไดกรมไม่วายที่จะต้องยกมือไหว้อนุสาวรีย์เสด็จพ่อขอพรให้พวกเราประสบความสำเร็จดังหวังตั้งใจทีเถิด.........พอดีเจอพรรคพวกรออยู่แล้ว 5-6 คน ทุกคนร้อยใจไม่แพ้กัน ข้าพเจ้าจึงเล่าแผนการให้ฟังคร่าว ๆ แล้วก็เดินไปที่โทรศัพท์สาธารณะที่ตั้งไว้ตรงเค้าเตอร์ด้านขวามือ ควานหาเหรียญบาทได้ 2-3 เหรียญ หยอดแล้วหมุนไปที่สำนักงานก.พ. ถนนพิษณุโลก ขอพูดกับหน้าห้องหัวหน้ากอง ตำแหน่งและอัตราเงินเดือน ขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจของหัวหน้ากองในวันนี้ ทราบว่าไม่ได้ติดประชุมหรือไปราชการที่ใดคิดว่าคงอยู่สำนักงานทั้งวัน พอได้ข้อมูลเป็นที่พอใจแล้ว ข้าพเจ้าก็บอกพวกเราว่าขออาสาสมัคร 2 คน ไปกับข้าพเจ้า เพื่อนไพรัช เพื่อนแขก อาสา ได้กำลังแล้วครบสามประสานต้องตามตำราพิชัยสงครามแล้ว.........ไม่รอช้า ข้าพเจ้าเดินนำหน้าพาพวกเราขึ้นไปชั้น 2 ที่ห้องกองการเจ้าหน้าที่ ซึ่งข้าพเจ้าได้ส่งสายหาข่าวไว้แล้วว่า วันนี้พี่เรของเราไม่ได้ไปไหนเช่นกัน สวรรค์ช่างเป็นใจเหลือเกิน เมื่อพวกเราไปยืนรอกันอยู่หน้าห้อง วันนี้ไม่เหมือนวันนั้น ห้องไม่ได้ปิดคงเปิดทำงานเป็นปกติ ข้าพเจ้าแจ้งความประสงค์บอกับเด็กในห้องว่าขอพบพี่เราหน่อย บอกชื่อเสียงเรียงนามและจำนวนคนที่จะเข้าพบให้ทราบ เด็กออกมาแจ้งให้ทราบว่าเข้าไปได้ เท่าที่จำได้ในห้องนั้นถูกแบ่งออกไปเป็น 2 ห้อง ห้องหนึ่งเป็นห้องหัวหน้ากอง อีกห้องเป็นห้องผู้ช่วย ในห้องหัวหน้ากองจะมีมุมหนึ่งสำหรับแขก วันนั้นหัวหน้ากองไม่อยู่ พี่เรเลยขออนุญาตใช้เพื่อเจรจากับพวกเราจะได้ไม่เป็นที่เอิกเกริกกับผู้ที่พบเห็นที่ไม่เข้าใจ นับว่าเป็นส่วนตัวดี เมื่อทุกคนนั่งเรียบร้อยกันทุกคนแล้ว
เอาละ พวกเธอมีอะไรที่ต้องการพบพี่ ครั้งนี้พี่ให้พวกเธอพบเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ
ข้าพเจ้ารับปากทันทีโดยมิได้รอช้า.........
ถ้าพี่ยอมปฏิบัติตามที่ผมขอร้อง ผมจะไม่รบกวนพี่อีกเลย วันนี้ผมได้นัดเจ้าหน้าที่ก.พ.ไว้แล้ว ว่าจะพาเจ้าหน้าที่กรมฯมาพบเพื่อพูดคุยกันให้ได้ข้อยุติ
ทันทีที่ข้าพเจ้ายื่นเงื่อนไขการปฏิบัติไป พี่เรของเรารีบออกตัวทันที
วันนี้พี่ไปไม่ได้หรอกรถของกองไม่ว่างพี่ให้เด็กไปราชการ
รถกองฯไม่ว่างไม่เป็นไร เรามีรถส่วนตัวจอดรอพี่อยู่ที่หน้ากรมแล้ว ขอเพียงพี่ลุกเดินไปขึ้นรถที่เราเตรียมไว้ก็จะเดินทางถึง ก.พ. ได้อย่างสบาย
ข้าพเจ้ารีบต่อรอง และขยั้นขยอแกมขอร้อง......พี่เรนิ่งไปสักพักเหมือนกับจะคิดอะไรได้ หรือไม่ก็คงจะรำคาญพวกเราเต็มทน.....
ตกลงพี่จะไปแต่พี่ไปรถของกองก็แล้วกัน พวกเธอไปรอพี่ได้ที่ก.พ.
ผมจะขับรถตามพี่ไปเพื่อเราจะได้ไม่คลาดกัน
ข้าพเจ้ารีบตอบและต่อรองไปอีกกันเหนียวเอาไว้ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่เอาชัวร์ไว้ก่อน.......
ดังจะได้กล่าวต่อไปมันเป็นนัดสำคัญยิ่งกว่าความตื่นเต้นใด ๆ ทั้งหมดที่ข้าพเจ้าเคยพบมาถ้าเปรียบเป็นมวยก็คงจะเป็นไฟท์บังคับระหว่าง สุดหล่อเดอลาโฮย่ากับทรินิแดด มันเป็นมวยหยุดโลกจริง ๆ พอพวกเราพร้อมพี่เรไปถึงก.พ.และได้ติดต่อขอพบท่านหัวหน้ากอง ท่านอนุญาตเชิญพวกเราไปที่ห้องรับแขกซึ่งบรรจุได้ 5-6 คน การเจรจาเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเริ่มแล้ว..........
ก่อนอื่น กระผมขอแนะนำ พี่เรไร ศรีทอง ให้ท่านหัวหน้ากองได้ทราบ พี่เรท่านเป็นตัวแทนของกองการเจ้าหน้าที่ในกรมป่าไม้มาให้ความกระจ่างแก่พวกเรา ในเรื่องอัตรากำลัง ที่กำลังสงสัยกันอยู่
ข้าพเจ้าเริ่มอารามพบทเกริ่นนำเสียก่อน เพื่อจะได้รู้เขารู้เรา...................
สำหรับพี่เรคงพอจะทราบแล้วนะครับ ว่าท่านที่เรากำลังขอความกรุณาอยู่ในขณะนี้ ท่านเป็นหัวหน้ากองรับผิดชอบในเรื่องนี้อยู่
พี่เร ดูท่าจะอ่อนลงมามากเมื่อมาอยู่ต่อหน้าท่านหัวหน้ากอง เพราะอาจจะแตกต่างกันที่คุณวุฒิและตำแหน่งหน้าที่การงาน และก็รับปากว่าทราบดี ว่าท่านเป็นใคร....................
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ผมได้รับทราบจากน้อง ๆ ว่า กรมป่าไม้ตอนนี้มีบัณฑิตจบมาแล้วไม่มีงานทำ กรมป่าไม้ต้องจ้างเป็นลูกจ้างชั่วคราวเฉลี่ยวันละ 20 บาท จริงไหม
ท่านหัวหน้ากองไม่รอช้า ยิงคำถามโดยไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์.....
ค่ะท่าน รุ่นนี้จบมามากกรมฯมีตำแหน่งไม่พอจึงบรรจุให้ได้ไม่หมดขึ้นทะเบียนไว้ประมาณ 100 คน
พี่เร รีบอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ให้ท่านหัวหน้ากองฟังด้วยน้ำเสียงที่ออกจะอ่อย ๆ ไม่สง่าผ่าเผยเหมือนกับที่ตอบกับพวกเราผิดกันลิบลับ......
แล้วทำไมไม่ทำเรื่องขอมาที่ก.พ.ละ จะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพวกน้อง ไ ที่รอกันอยู่
พอท่านหัวหน้ากองถามประโยคนี้มา ทำให้พี่เรของเรานิ่งเงียบ ปกติพี่ท่านเป็นคนขาวอยู่แล้ว ปรากฏว่าสีหน้ายิ่งซีดขาวหนักขึ้นไปอีก เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นตามไรผม แสดงว่าตื่นตระหนกพอสมควรข้าพเจ้าพอเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นเดาได้ทันทีเลยว่า โกหกทั้งเพ คนโกหกเป็นกรมป่าไม้เราเองทั้งสิ้น
เห็นน้อง ๆ เล่าให้ฟังว่ากรมป่าไม้ขอตำแหน่งมาก.พ. แต่ก.พ.ไม่อนุมัติ ผมขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง กรมป่าไม้ไม่เคยขอตำแหน่งมาเลย ถ้ามีผมต้องรู้เพราะคุมเรื่องนี้อยู่หรือว่ากรมป่าไม้มีหลักฐาน มีหนังสือมาด้วยหรือเปล่าถ้ามีผมขอดูหน่อย
หัวหน้ากองเริ่มป้อนคำถามอันเป็นปริศนาคาใจพวกเราอย่างตรงไปตรงมา ทำให้พี่เรหน้าเริ่มถอดสีไม่มีเลือดวิ่งมาเลี้ยงหลงเหลืออยู่เลย แล้วพี่เรก็ตอบคำถามดังกล่าวด้วยเสียงอ่อย น่าเวทนาเป็นยิ่งนัก.......
ดิฉันไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก ได้ยินคุณเทวาผู้ช่วยหัวหน้ากองการเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีตำแหน่งเพราะก.พ.ไม่ให้ดิฉันก็นำมาถ่ายทอดต่อ
ทีหลังมีอะไรผมขอร้องอย่าพูดโดยปราศจากหลักฐานและทำให้หน่วยงานอื่นเป็นที่เสื่อมเสีย กลับไปนี้ทำเรื่องขอมาเลย ให้เหตุผลความจำเป็นมาด้วยก็พอ ก.พ.ยินดีช่วยเหลือเต็มที่แต่อาจจะช้าไปเพราะสิ้นฤดูการกำหนดตำแหน่ง
พอสิ้นเสียงของท่านหัวหน้า ข้าพเจ้ารีบสอดทันทีว่า ตอนนี้กรมป่าไม้มีอัตรากำลังพนักงานจัตวาอยู่ประมาณ 200 อัตรา จะนำตำแหน่งนี้มาเปลี่ยนเป็นพนักงานป่าไม้ตรีได้หรือไม่
ได้ แต่เป็นตำแหน่งที่มีอัตราเงินเดือนไม่ถึงปริญญาตรี ต้องไปขอเงินเพิ่มที่สำนักงบประมาณถ้าสำนักงบประมาณไม่ขัดข้อง ก.พ.ก็ดำเนินการบรรจุให้ได้
ท่านหัวหน้ากองอธิบายขบวนการจัดการกับตำแหน่งแต่บอกว่าพวกเราที่บรรจุจะได้ตำแหน่งพนักงานป่าไม้ตรี ไม่ใช่ตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ตรี พวกเราที่อยู่ในห้องต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าตำแหน่งอะไรก็เอาไปก่อนดีกว่าตกงาน เมื่อได้ลายแทงแล้วไม่รอช้าทุกคนรีบลาหัวหน้ากองเพื่อจะได้ดำเนินการเรื่องอื่นต่อไป พอลงมาข้างล่างแจ้งให้พรรคพวกที่คอยอย่างใจจดใจจ่อ ฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้วส่วนหนึ่งก็แยกย้ายกลับ สำหรับข้าพเจ้านั้นยังมีภาระอันหนักหน่วงที่จะต้องทำต่ออีกจึงนัดหมายเพื่อนแขก เพื่อนไพรัช แล้วเดินข้ามไปยังสำนักงบประมาณซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามก.พ. เข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อขอพบผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ตอนนี้เลือดเข้าตาแล้วลุยลูกเดียวเพื่ออนาคต ได้รับคำตอบว่าท่านผู้อำนวยการไม่อยู่ อยู่แต่รอง คือ คุณศจี ต้องขอโทษที่จำนามสกุลท่านไม่ได้ ข้าพเจ้าตอบรับและขอความกรุณาพบ ท่านก็ให้พบ ต้องขอขอบพระคุณ ชาตินี้จะไม่ลืมบุญคุณท่านเลย ท่านเป็นผู้หญิงขาวท้วมนิด งามสมวัย ท่าทางใจดี พอพวกเรายกมือไว้สวัสดีเสร็จแล้ว ท่านสั่งให้พวกเรานั่งแล้วเริ่มคำถาม..........?
น้อง ๆ มีธุระอะไร รู้สึกว่าเราจะไม่เคยพบกัน
ข้าพเจ้าไม่รอช้ารีบเล่าเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาให้ท่านได้รับฟังโดยละเอียด ท่านรับฟังโดยสงบข้าพเจ้าจึงถามออกไปตรง ๆ เลยเนื่องจากใจร้อน..........
กระผมอยากเรียนถามท่านว่า สำนักงบประมาณสามารถสนับสนุนงบประมาณส่วนที่ยังขาดอยู่ของตำแหน่งพนักงานจัตวาให้สามารถตั้งเบิกในตำแหน่งพนักงานป่าไม้ตรีได้หรือไม่
ได้ซิ พวกเธอไปขอให้กรมฯทำเรื่องมาสำนักฯสนับสนุนเต็มที่
ท่านรับปากโดยไม่ต้องคิดเลย........โล่งอกไปทีนี้ถ้าข้าพเจ้าพกสาริกาลิ้นทองมาด้วยคงต้องเชื่อแน่ ๆ ว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของมันแน่นอน......แต่ความจริงมันเป็นธรรมดา ธรรมชาติ มันเป็นธรรมะ ฟ้าหลังฝนฉันใดเหตุการณ์ทั้งหมดก็เป็นฉันนั้น........เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่รบกวนท่านแล้ว พวกเราพากันกราบลาท่านเดินทางกลับกรมฯ แล้วนำความต่างที่ได้เจรจามาถ่ายทอดให้พี่เรของพวกเราฟัง พี่เรรับปากว่าจะรีบดำเนินการขอตำแหน่งให้พวกเราโดยเร็ว มันทำให้พวกเราอดที่จะดีใจไปไม่ได้ที่ภารกิจได้สำเร็จไปหนึ่งเปราะ ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับที่ตั้งของตนเพื่อรอคอยความหวังดังเช่นข้าวรอฝน.....อนาถใจนัก....
Last updated: 2015-04-27 07:47:29