ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จจะต้องรู้จักกำหนดภาพลักษณ์ของตนเองเข้าใจบทบาทและวางท่าที ที่เหมาะสมต่อสถานการณ์
 
     
 
ยิ่งตี...ยิ่งโต (1)
การขุดหินนี้ทราบว่าได้รับอนุญาตจากทางราชการแต่มีการย้ายหลักเขตแสดงแนวที่ได้รับอนุญาตไปตามบริเวณที่ขุดเจาะระเบิดหินจึงขอให้ตรวจสอบยุติการทำลายป่าเขาสวาย
 

เสียง ต๊อด...ต๊อด...ต๊อด...ดังไม่แรงนัก แต่ไวเบลชั่นพอที่จะทำให้ข้าพเจ้าซึ่งกำลังนั่งพิมพ์หนังสือที่โต๊ะพิมพ์ดีดในห้องทำงานของหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 (สังขะ) ต้องเงยหน้าขึ้นมองขณะนี้บุรุษไปรษณีย์กำลังขี่จักรยานยนต์ฮอนด้าสีแดงเก่าคร่ำคร่าเข้ามาในหน่วยและนักการภารโรงตารงค์วิ่งไปหาเหลือบตาขึ้นมองอีกทีเห็นตารงค์กำลังลงนามรับเอกสารลงทะเบียนรับซองสีน้ำตาลแล้วเดินตรงมาที่ข้าพเจ้าเมื่อรับซองจดหมายแล้วจึงถามว่า...!?

                “วันนี้ไม่มีใครอยู่หน่วยหรือยังไง เดือดร้อนตารงค์รับจดหมาย เจ้าน้อยไปไหน

ได้รับคำตอบว่า...

“พี่ประเวศไปตลาดในอำเภอ ไอ้น้อยเห็นบอกเมื่อวานว่าวันนี้ต้องไปมอบตัวลูกเข้าโรงเรียนอาจมาสาย”

ข้าพเจ้าจึงเงยหน้าขึ้นดูนาฬิกาที่ผนังมันเพิ่งจะ 08.30 น. เท่านั้นเองแสดงว่าเราตื่นเช้าไม่มีอะไรทำจึงมานั่งพิมพ์หนังสือรายงานผลคดีให้เขตทราบ ช่วยเบาแรงประเวศไปบ้างเพราะเดือนที่แล้วจับหลายคดี บุคลากรของหน่วยมีพิมพ์ดีดได้ไม่กี่คนหน่วยไม่มีงบในการจ้างพนักงานพิมพ์ดีดอัตคัดเหลือเกิน เมื่อพิมพ์บรรทัดสุดท้ายเสร็จรีบเอาออกใช้ผ้าพลาสติกคลุมไว้เช่นเดิมป้องกันฝุ่นแล้วรีบถือซองสีน้ำตาลที่ปะทับตราด่วนมากที่หัวซองเดินไปที่โต๊ะ...

ทุกวันนี้ชินเสียแล้วกับหนังสือราชการแทบจะ 80 เปอร์เซ็นต์ที่จะต้องประทับตราชั้นความเร็ว ไม่ด่วนก็ด่วนมาก หรือด่วนที่สุดจนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ตื่นเต้นเหมือนสมัยก่อน ต่อไปต้องขอสำนักนายกรัฐมนตรีออกระเบียบในเรื่องชั้นความเร็วว่า...

“ด่วนภายในวันนี้”

คงจะพิลึกดี พอนั่งบนเก้าอี้เสร็จเปิดลิ้นชักควานหากรรไกรหยิบออกมาตัดขอบแล้วล้วงมือเข้าไป พระเจ้าช่วยยังมีอีกหนึ่งซองรีบดึงขึ้นมา เป็นซองยาวด้านบนด้านล่างซองมีตราชั้นความลับประทับว่า “ลับ” คราวนี้หายใจไม่ทั่วท้องมีเรื่องด่วนและลับอะไรอีกพึ่งจบเรื่องแบ๊กโฮของเจ้าโฉมมาสดๆร้อนๆ ยังไม่ทันได้หายใจคล่องจมูกเลยมาอีกแล้ว ปิดผนึกอย่างดีแล้วยังลงนามกำกับอีกด้วย แต่ถ้าจะให้ครบถ้วนควรจะใช้เทปใสปิดทับตามแนวที่ปิดผนึกอีกชั้นคราวนี้สมบูรณ์ตัดขอบซองรีบดึงหนังสือราชการออกมาวางบนโต๊ะมีด้วยกัน 3 ฉบับ ฉบับแรกถึงหัวหน้าสำนักงานพัฒนาป่าไม้ที่ ส.ร.1 ฉบับที่ 2 เป็นสำเนาหนังสือกรมป่าไม้ถึงป่าไม้เขต ฉบับที่ 3 เป็นสำเนาหนังสือกรมป่าไม้ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ในใจความหนังสือถึง ส.ร.1 ให้ประสานจังหวัดสุรินทร์ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีราษฎรร้องเรียนใจความว่า....

“ที่ป่าเขาสวาย ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์มีการขุดระเบิดหินเพื่อนำไปยังโรงโม่หินศิลาทองรุ่งเรื่องกิจ ซึ่งการขุดหินนี้ทราบว่าได้รับอนุญาตจากทางราชการแต่มีการย้ายหลักเขตแสดงแนวที่ได้รับอนุญาตไปตามบริเวณที่ขุดเจาะระเบิดหินจึงขอให้ตรวจสอบยุติการทำลายป่าเขาสวาย”

โดยให้จังหวัดสั่งเจ้าหน้าที่ประสานงานป่าไม้เขตอุบลราชธานีตรวจสอบข้อเท็จจริง...!?

พออ่านจบก็เอนหลังพิงเบาะทอดตัวในท่าที่คิดว่าสบายที่สุดแล้วนั่งเหม่อลอยสักพักจิตใจยังสับสนพอดีกับประเวศเดินเข้ามาในห้องเห็นข้าพเจ้านั่งใจลอยจึงถามว่า...

“พี่กินข้าวเช้าแล้วหรือยัง ผมซื้อขนมมาฝาก เห็นตารงค์บอกว่าพี่ลงมาพิมพ์หนังสือแต่เช้า”

ข้าพเจ้าส่ายหน้าไม่ตอบ ประเวศจึงเดินไปชงกาแฟร้อนมาให้หนึ่งถ้วยพร้อมขนมกล้วยแขกร้อนๆจากตลาด เพื่อไม่ให้คนซื้อเสียน้ำใจหยิบมาหนึ่งชิ้นใส่ปากตบท้ายด้วยกาแฟรู้สึกรสชาติแปลกไปอีกอย่าง พอเสร็จเรื่องอาหารจึงหยิบหนังสือส่งให้คนส่งเสบียงอ่านแล้วสำทับไปว่า อ่านจบเอาไปลงทะเบียนรับในสมุด รับ-ส่งอกสารลับด้วยซึ่งประเวศรู้ระเบียบดีอยู่แล้วขณะที่สังขะ2 กำลังอ่านหนังสือราชการอยู่นั้น ข้าพเจ้าฆ่าเวลาด้วยการหยิบกล้วยแขกทอดที่เหลือบริโภคต่อพอคนตรงหน้าอ่านจบได้ยินเสียงร้องออกมาเบาๆว่า...!?

                “ที่เกิดเหตุมันอยู่นอกเขตควบคุมของเรานี้พี่ เป็นเขตควบคุมของสำนักงานพัฒนาป่าไม้ที่ สร.2 (ปราสาท) ส่งผิดที่แล้วมั่งพี่”

แล้วคนอ่านก็โวยวายต่อสักพัก เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเมื่อมีคนทักควรตรวจสอบให้ได้ความจริงจึงหารือไปว่า...!?

                “วิทยุคงสอบถามไม่ได้เพราะเป็นเรื่องลับคุณเข้าไปในตัวอำเภอใช้โทรศัพท์สาธารณะถามธุรการซิว่าหน่วยงานไหนกันแน่”

พร้อมให้จดเลขที่หนังสือเพื่อเป็นข้อมูลในการสอบถาม คนข้องใจรีบตรงไปที่จักรยานยนต์แล้วขับขี่มันออกไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็กลับมารายงานว่าทางเขตยืนยันว่าส่งถูกต้องแล้วบ่นพึมพำว่า...!?

                “เจ้าโฉมหาเรื่องให้ยังไม่ทันหายเหนื่อยเจ้านายเอาอีกแล้ว ระเบิดย่อยหินรายนี้มีการร้องเรียนทั้งปีเห็นพรรคพวกที่หน่วย สร.2 ไปตรวจก็ถูกต้องตามเงื่อนไข และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้มาก็ไม่เห็นทักท้วงอะไรไปดูแล้วก็กลับ สำหรับเจ้าหน้าที่จังหวัดไม่ต้องพูดถึงไปตรวจกันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้”

ปรกติข้าพเจ้าไม่ค่อยเห็นประเวศโมโหโกรธาอย่างนี้ แสดงว่าเจ้าของสัมปทานรายนี้คงไม่เบาไม่มีใครอยากไปยุ่งด้วย ขนาดป่าไม้เขตยังต้องสั่งเจ้าหน้าที่นอกเขตควบคุมไปตรวจจึงพูดปลอบใจคนกำลังมีน้ำโหว่า...

“เขตคงไว้ใจคุณก็ได้คิดในแง่ดีจะได้สบายใจ”

คนบ่นตอบกลับมาว่า...

“สั่งให้ไม้ซีกไปงัดไม้ซุงละไม่ว่า แต่เป็นพี่ผมก็สบายใจ ถ้าเป็นหัวหน้าคนอื่นผมลาพักร้อนแน่นอน”

ข้าพเจ้าจึงยื่นหนังสือให้ลงนามรับทราบว่าหัวหน้าสำนักงานพัฒนาป่าไม้ที่ สร.1 ได้สั่งให้คุณประเวศ สุจินพรัหม และคุณธีรยุทธ วงศ์ไพเสริฐไปร่วมตรวจสอบในครั้งนี้ เมื่อลงนามแล้วให้ไปวิทยุเรียก บัวเชด2 มารับทราบคำสั่งด่วน จะได้หารือกำหนดวันออกตรวจสอบ ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเจ้าจอยโผล่มาพออ่านหนังสือเสร็จร้องว่ามันเป็นเขตท้องที่พี่โนนี้ ประเวศจึงเตือนว่าให้รีบลงนามรับทราบ ข้าพเจ้าจึงนัดหมายว่าวันพรุ่งนี้ให้มาพบกันที่หน่วยสังขะเวลา 09.30 น....?

วันนี้เป็นวันที่ 6 กันยายน คณะของเราทั้งสามมาปรากฏตัวที่ในห้องป่าไม้จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 10.30 น. ท่านป่าไม้จังหวัดกับข้าพเจ้าคุ้นเคยกันดีเพราะท่านเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายปลูกสร้างสวนป่าของป่าไม้เขตซึ่งข้าพเจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ประจำฝ่าย ท่านถามว่า...

“อยากได้ใครไปร่วมงานด้วย”

ข้าพเจ้าตอบไปว่าแล้วแต่ท่าน ทันทีทันใจเหมือนกันหยิบปากกามาเกษียณสั่งในหนังสือ แล้วส่งให้ข้าพเจ้าหยิบมาอ่านท่านสั่งว่าให้นายเพียรสายตรวจจังหวัด นายเสือหัวหน้างานใช้ประโยชน์ที่ดินป่าสงวน และป่าไม้อำเภอเมืองไปร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่เขต ก่อนออกจากห้องท่านพูดกระเซ้าตามหลังว่า...

                “เอาจริงแน่นะทศ...

ข้าพเจ้าได้แต่ยิ้มแล้วยกมือไหว้ลาแล้วพาพรรคพวกออกจากห้องเอาหนังสือที่ป่าไม้สั่งการมาให้นายเสือดู หัวหน้างานสายตรวจอ่านแล้วบ่นอิดออดว่า...

“พี่เพียรไปคนเดียวก็ดีแล้วงานผมยุ่งมากเลยไม่มีใครช่วยอาทิตย์ที่แล้วกรมมาตรวจผมไม่ได้ไปให้ไปเองเห็นว่าไม่มีอะไร พี่ทศจะไปตรวจจริงๆหรือพี่”

ข้าพเจ้าบอกว่าไปดูหน่อยก็ดีถ้าไม่มีอะไรจะได้สบายใจเอาเป็นว่าให้ใครไปตามพี่เพียรให้หน่อย สักครู่เห็นพี่เพียรเดินมานั่งข้างข้าพเจ้าและคณะต่างยกมือไหว้ในฐานะที่อาวุโสกว่า...พี่เพียรเป็นป่าไม้อาวุโสในสำนักงานมีนิสัยอ่อนโยนใจเย็น ย้ายมาจากหน่วยจัดการต้นน้ำปัจจุบันเป็นหัวหน้าสายตรวจของจังหวัด พี่เพียรจึงเปรยขึ้นว่า....

                “ที่จริงงานนี้คุณทศไปคนเดียวก็พอแล้วหรือไม่อย่างนั้นชวนเจ้าเสือไปด้วย”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงคนนั่งข้างหน้าตอบสวนกลับเร็วทันกัน...

“ดูบันทึกสั่งการของป่าไม้จังหวัดก่อนแล้วค่อยพูด”

ข้าพเจ้าเห็นว่าทั้งคู่พยายามจะหาทางบ่ายเบี่ยงจึงพูดขึ้นว่า....!?

                “เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเขากำหนดมาให้มี 3 ฝ่ายมีป่าไม้เขต ป่าไม้จังหวัด ป่าไม้อำเภอ แต่ของจังหวัดมีสองคนผมตัดสินให้วันไหนใครว่างก็ไปกับผม”

พี่เพียรรับคำทันทีเอาตามที่ข้าพเจ้าเสนอแนะเรื่องจึงจบ ข้าพเจ้าจึงให้เสือค้นหาเรื่องเดิมคือหลักฐานการขออนุญาตและใบอนุญาตให้ด้วย ไม่ถึงถึงครึ่งชั่วโมงเอกสารเรื่องเดิม สำเนาหนังสืออนุญาตและเงื่อนไขแนบท้ายหนังสืออนุญาต และรายงานการสำรวจเบื้องต้นรวมเอกสาร 20 แผ่นก็มาอยู่ในมือข้าพเจ้า ดูเวลาขณะนี้ 15.30 น. จึงบอกประเวศและธีรยุทธเรามีเวลาเข้าตรวจตอนนี้เลยก็ทัน ไม่รอช้าจูงมือพี่เพียรไปขึ้นรถที่ประเวศติดเครื่องรอสั่งให้ขับไปแวะที่สำนักงานป่าไม้อำเภอ ปรากฏว่าป่าไม้อำเภอไม่อยู่จึงได้ผู้ช่วยไปแทนมุ่งตรงไปยังเป้าหมายที่ผู้ช่วยป่าไม้อำเภอนำทาง ระหว่างทางได้ชวนพี่เพียรคุยเพื่อหาข้อมูล....

                “พี่เพียรเคยพาสายตรวจไปตรวจบ้างหรือเปล่า

ได้รับคำตอบว่า...

“เห็นเขาได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายแล้วจึงไม่ได้ไปตรวจอีกอย่างอำเภอเขามีหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว หากป่าไม้เราไปตรวจบ่อยเขาจะเข้าใจผิด ไม่อยากเป็นขี้ปากบางคนหาว่าไปรีดไถ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ไปตรวจเป็นประจำเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเจ้าหน้าที่กรมเพิ่งตรวจกลับไปไม่เห็นว่าอย่างไร”

ข้าพเจ้านึกในใจว่ามีแต่คนพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ สงสัยเจ้าของใบอนุญาตจะเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีดี แต่ดูแล้วไม่น่ามีอิทธิพลเพราะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองไม่ว่าระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ มีเพียงอย่างเดียวอำนาจเงิน...

ความคิดต้องสะดุดหยุดลงเมื่อถึงเป้าหมายทุกคนลงจากรถมันเป็นเวลา 16.20 น. สถานที่พบอยู่ตรงหน้ามีรถปั้มลม เครื่องเจาะอัดดินระเบิด และรถแบ็กโฮจอดอยู่ 1 คัน ไม่พบใครในรถที่เกิดเหตุอาจจะเลิกงานกันแล้ว จึงตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุเคร่าๆ พบว่ามีเนื้อที่เป็นบริเวณกว้างเกินกว่า 5 ไร่แน่นอนแต่ที่สำคัญไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าบริเวณใดเป็นขอบเขตที่ได้รับอนุญาตพบหลักปูนซีเมนต์ 2 ต้นปักอยู่ จะเชื่อได้อย่างไรว่าหลักจะไม่ถูกย้าย นำแผนที่มากางดูเจ้าหน้าที่ระบุตำแหน่งเป็นจุดขนาด 2 x2 มิลลิเมตร เป็นรูปสี่เหลี่ยมลงในแผนที่ภูมิประเทศมาตราส่วน 1 :50,000 แผนที่แนบท้ายกฎกระทรวงและไม่ได้มีการรังวัดเป็นการตรวจสอบอนุญาตที่หยาบมาก ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นในใจพอดีกับประเวศถามว่า...?

                “จะเอายังไงดีพี่หลุมมันใหญ่เหลือเกิน ที่เขาอนุญาต 5 ไร่ ไม่รู้อยู่ตรงไหน

ข้าพเจ้านั่งนึกไปดื่มน้ำไปดูเวลาเห็นว่าเย็นมากแล้วจะให้ประเวศบันทึกเห็นจะไม่ทัน ตัดสินใจให้เอาเครื่องมือหากินมาให้ประเวศหยิบกระดาษบันทึกมา 2 แผ่นส่องดูบรรทัดตรงกันเย็บหัวด้วยสแต็บเปิลเอากระดาษคาร์บอนสอดวางลงที่แผ่นรองเขียนยื่นให้ ข้าพเจ้ารับมารีบทำการเขียนบันทึกการตรวจสอบประมาณ 20 นาทีก็เสร็จส่งให้พวกเราทุกคนลงนาม จึงสั่งให้ทุกคนขึ้นรถกลับกันได้แล้วทุกคนไม่มีใครสนใจบันทึก ยิ่งพี่เพียรเห็นหายใจอย่างโล่งอกพอส่งแกที่สำนักงานป่าไม้จังหวัดแล้วคณะเราเดินทางกลับ ประเวศถามขึ้นว่า...?

                “พี่ตรวจแค่นี้หรือพี่ มันขุดเกินเนื้อที่อนุญาตไปตั้งมาก ผมว่าเราต้องจับถึงจะถูก”

เจ้าจอยนั่งเงียบตั้งกระทู้ขึ้นมาว่า…

“เราจะจับยังไงพี่เวศไม่รู้ตรงไหนเขาอนุญาตทำมั่วไปอัยการสั่งฟ้องอายเขาตาย”

ข้าพเจ้านั่งนิ่งสักพักพูดขึ้นว่า...

“ทั้งสองคนพูดมาก็มีเหตุผลกลับไปถึงหน่วยเอาบันทึกผมไปนอนอ่านตอนเช้าเอามาคืน”

พอรถไปถึงหน่วยสังขะทุกคนต่างลง เห็นประเวศแยกเอกสารส่งให้เจ้าจอยไปหนึ่งฉบับ แล้วแยกย้ายกันกลับที่พักตัวใครตัวมัน...

ข้าพเจ้าคิดในใจว่าวันพรุ่งนี้คงรู้ว่าจะเป็นหมู่หรือเป็นจ่า...??

 


Last updated: 2014-08-02 07:04:46


@ ยิ่งตี...ยิ่งโต (1)
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ ยิ่งตี...ยิ่งโต (1)
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
1,040

Your IP-Address: 44.222.116.199/ Users: 
1,039