คิดว่าทำได้ย่อมมีโอกาสมากกว่าคนที่คิดว่าทำไม่ได้
 
     
 
สำนักตักศิลาป่าไม้ ตอน องคาพยพ(1)
เมื่อข้าพเจ้าได้รับคำสั่งไม่รอช้ารีบบึ่งรถส่วนตัวเจ้าโตโยต้า กระบะรุ่นฮีโร่ ออกมาใหม่สดๆร้อน และทางเขตยังใจดีมอบรถสนับสนุนให้อีกคัน
 

……...หลังจากปิดป่าโดยรัฐบาล  เพราะเกรงว่าการทำไม้โดยนายทุนโดยบริษัททำไม้จะทำให้ป่าหมดการบุกรุกทำลายป่าก็จะลดลงตาม  แต่จากการประเมินจากตัวข้าพเจ้าแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่เพราะป่าถูกบุกรุกเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากร  ความต้องการที่ดินเพื่อทำกินมีสูงมาก และสำหรับไม้นั้นเป็นปัจจัยสี่ที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยก็ติดตามมาเป็นเงาตามตัว  ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันหาหยุดแต่เพียงปัญหาของชาติเท่านั้นไม่  มันมีผลกระทบถึงกรมกองที่มีหน้าที่ในการดูแลรักษาป่าอีกด้วย  กรมป่าไม้ของเราก็หาน้อยหน้าในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่าก็หาไม่ ได้คิดยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาโดยการเปลี่ยนแปลงการบริหารงานภายใน  โดยการกำหนดให้ป่าไม้เขตทุกเขตทำการทดลองแบ่งส่วนราชการ  โดยให้ตั้งหน่วยงานภาคสนามขึ้นใหม่ในรูป  “สำนักพัฒนาป่าไม้”  ซึ่งเอาเขตทางเหนือเป็นแหล่งทดลองโดยให้สำนักงาน  กพ.  เป็นผู้ประเมินผล รูปก็ไม่มีอะไรมากหลักคือการกระจายอำนาจลงพื้นที่ให้มากที่สุด  แต่ผลการทดลองทางเหนือไม่ผ่าน ข้าพเจ้าไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร  โดยตัวข้าพเจ้าเองถูกแต่งตั้งให้ไปเป็นหัวหน้าสำนักพัฒนาป่าไม้ขอเอาเกียรติเป็นประกันเลยว่ากรมป่าไม้เดินมาถูกทางแล้ว  ต่อไปข้าพเจ้าจะเล่าถึงองคาพยบให้ฟังว่าทำไมข้าพเจ้าจึงมองต่างมุมเช่นนั้น ข้าพเจ้าเมื่อมีโอกาสที่ใดจะพูดตลอดเวลาว่าการจัดตั้งสำนักงานพัฒนานั้นกรมป่าไม้ได้เดินมาถูกทางแล้ว  ในการที่จะป้องกันรักษาป่าแต่ในตอนนั้นอายุยังน้อย  วุฒิภาวะไม่พอที่ใครจะเชื่อถือ  การจัดตั้งหน่วยงานนี้ถ้าคนที่ถูกแต่งตั้งไปทำหน้าที่  ทุกคนอุทิศตัวเกาะติดสำนักงานตลอดเวลา  ขอรับรองได้เลยว่าป่าจะถุกบุกรุกน้อยมาก  การจัดตั้งไม่มีอะไรมากใช้กำลังพลที่มีอยู่และอาคารสถานที่ตลอดจนยานพาหนะที่เคยใช้ประจำเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเปลี่ยนไปคือการกระจายอำนาจ  ป่าไม้เขตต้องกระจายอำนาจลงยังหน่วยงานให้มาก  จุดอ่อนที่พบก็ตรงนี้แหละที่หัวหน้าฝ่ายต่างๆ  ไม่ยอมปล่อยอำนาจและงบประมาณลงพื้นที่  เพราะความเป็นมนุษย์ที่ยังหวงอำนาจไว้โดยหาได้เห็นประโยชน์ของส่วนร่วมมาก่อนไม่น่าเสียดายโอกาสแทนกรมป่าไม้  และประเทศไทยการจัดรูปแบบก็ไม่มีอะไรมาก  เพียงรวมหน่วยป้องกันรักษาป่า  2-3  หน่วยมารวมกันโดยใช้หน่วยใดหน่วยหนึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักพัฒนาป่าไม้  เพียงเปลี่ยนป้ายเท่านั้นหาได้ลงทุนอะไรเพิ่มเติมไปมากมายนัก และแบ่งเขตการปกครองตามพื้นที่ป่า  ฝ่ายต่างๆ  ก็เพียงมอบหน่วยงานของตนให้ไปขึ้นตรงต่อสำนักพัฒนาเท่านั้น  เช่น  ฝ่ายปลูกสร้างสวนป่าก็มอบสวนป่าไม้ดูแล  ฝ่ายจัดการป่าไม้มอบป่าสัมปทานที่ยังคงมีเงื่อนไขอยู่ให้ดูแลเพราะสัมปทานป่าไม้สิ้นสุดลง  เมื่อตอนรัฐบาลสั่งปิดป่าแล้ว  ฝ่ายใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้บางสำนักก็ส่งคนไปช่วยแล้วแต่ความสำคัญของสำนักงานนั้นๆ

                การจัดอัตรากำลังขึ้นอยู่กับสภาพของป่าว่าที่ใดคุมพื้นที่ป่าไม้มากก็ส่งบุคลากรไปเสริม  เมื่อข้าพเจ้าได้รับคำสั่งไม่รอช้ารีบบึ่งรถส่วนตัวเจ้าโตโยต้า  กระบะรุ่นฮีโร่  ออกมาใหม่สดๆร้อน และทางเขตยังใจดีมอบรถสนับสนุนให้อีกคันเป็นรถโตโยต้าโพร์วีลไดร์ทเจ้าสิงห์ทะเลทรายได้สนุกกันละคราวนี้ลุยป่าสนุกแน่  เพราะมันวิ่งได้ทุกสภาพพื้นที่เพราะมันวิ่งได้ทั้งสี่ล้อ  โอกาสที่จะติดล่มคงยาก  และให้พนักงานขับรถนายไพไปดูรถด้วยซึ่งข้าพเจ้าถือเป็นกำลังเสริมกองหน่วยปรามปราบการลักลอบตัดไม้ทำลายอย่างดีเยี่ยม  เมื่อข้าพเจ้าไปถึงสำนักพัฒนาที่ศก.2 (ขุขันธ์)  ซึ่งเป็นหน่วยป้องกันรักษาป่าเดิม  ซึ่งเราเรียกว่าหน่วยขุขันธ์  โดยให้สำนัก ฯ  มีการควบคุม

                หน่วยอีกหนึ่งหน่วยคือหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.4  (ไพรพัฒนา)  ซึ่งหน่วยที่ว่ายังไม่ได้สร้างคงมีรูปอยู่ในแบบแปลนซึ่งข้าพเจ้าอีกนั้นแหละที่ต้องเข้าไปยุ่งมันแต่ในคราวนี้ไม่ได้ควบคุมการก่อสร้างแล้วเพราะเจ้านายเข็ดเขี้ยวเลยแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจรับ  แต่ได้แต่งตั้งหัวหน้าหน่วยเรียบร้อยแล้วในช่วงแรกพักอยู่กับพวกเราก่อนที่หน่วยขุขันธ์ไปพลางก่อนจนกว่าหน่วยจะสร้างเสร็จ  ก็เป็นการดีอบอุ่นใจดี


Last updated: 2014-01-11 09:04:02


@ สำนักตักศิลาป่าไม้ ตอน องคาพยพ(1)
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ สำนักตักศิลาป่าไม้ ตอน องคาพยพ(1)
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
1,235

Your IP-Address: 18.97.14.84/ Users: 
1,234