|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
[2801]
ตะเคียนขน ( Hopea minutiflora)
DIPTEROCARPACEAE
ตะเคียนขน,ตะเคียนไพร,ตะเคียนสามพอน(สุราษฎร์ธานี),ตะเคียนหมี(สุราษฎร์ธานี,ยะลา)
|
|
ท้องที่ที่ขึ้น
ขึ้นอยู่ตามป่าดงดิบทางภาคใต้ |
|
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๑๕-๓๐ เมตร ลำต้นค่อนข้างเปลา ตรง ตามกิ่งและก้านอ่อนมีขนหนาแน่น ใบเป็นชนิดใบเดี่ยว รูปไข่แกมรูปหอก หรือรูปหอกขนาด ๒-๓ x ๔-๘ ซม. โคนเบี้ยว ปลายสอบเรียว หรือหยักเป็นติ่ง เนื้อหนา หลังใบมีขนประปราย ท้องใบมีขนมาก โดยเฉพาะตามง่ามเส้นแขนงใบ ก้านใบมีขนนุ่มทั่วไป ดอกออกเป็นช่อสั้น ยาวประมาณ ๕ ซม. ตามง่ามใบและปลายกิ่ง กลีบรองกลีบดอกมี ๕ แฉก |
|
ลักษณะเนื้อไม้
สีเหลืองปนเขียว คล้ายคลึงกับไม้ตะเคียนทอง เสี้ยนตรง เนื้อค่อนข้างละเอียด แข็งปานกลาง เนื้อเป็นมันคล้ายตะเคียนทอง ไสกบ ตบแต่งง่าย ขัดชักเงาได้ดี |
|
ความถ่วงจำเพาะ
ประมาณ ๐.๖๒ (๑๐.๒%) |
|
สกายสมบัติ
มีอัตราการยืดหดตัวทางด้านรัศมีประมาณร้อยละ ๒.๘๙
ทางด้านสัมผัสประมาณร้อยละ ๗.๓๙
ทางด้านยาวตามเสี้ยนประมาณร้อยละ ๐.๓๗
|
|
กลสมบัติ
เนื้อไม้มี ความแข็ง ประมาณ ๔๗๕ กก.
ความแข็งแรง ประมาณ ๙๕๘ กก. / ตร.ซม.
ความดื้อ ประมาณ ๙๒,๒๐๐ กก. / ตร.ซม.
ความเหนียว ประมาณ ๑.๕๕ กก.-ม.
|
|
เคมีสมบัติ
|
|
ความทนทานตามธรรมชาติ
|
|
การอาบน้ำยาไม้
|
|
ประโยชน์
ไม้ ใช้ทำเสา กระดานพื้น เครื่องตบแต่งบ้าน และการก่อสร้างต่าง ฯลฯ |
|
|
กลุ่ม:ไม้และของป่าบางชนิดในประเทศไทย
