จดแล้วไม่ค่อยจำ เข้าใจแล้วไม่ค่อยลืม
 
     
 
แม่สอด(อาจ)สะอื้น
เปิดพรมแดนเชื่อมพม่าเร่งค้าขาย สร้างรายได้อัญมณีมีไปทั่ว สิ่งกินใช้แป้งผัดหน้าทั้งทาตัว ของเรือนครัวเครื่องไฟฟ้าผ้าแพรพรรณ
 

•สาวแม่สอดเคยวิโยคโศกสะอื้น

ทรวงขมขื่นอ้างว้างกลางป่าเขา

ถูกทอดทิ้งทรมานมานานเนา

แสนซบเซาเศร้าช้ำริมน้ำเมย*

•คืนวันเปลี่ยนเวียนไปไม่ยึดติด

เศรษฐกิจใกล้ไกลไม่นิ่งเฉย

ฉุดแม่สอดรุดหน้าไปไม่เหมือนเคย

สาวแม่เอยเลยยิ้มย่องไม่หมองมัว

•เปิดพรมแดนเชื่อมพม่าเร่งค้าขาย

สร้างรายได้อัญมณีมีไปทั่ว

สิ่งกินใช้แป้งผัดหน้าทั้งทาตัว

ของเรือนครัวเครื่องไฟฟ้าผ้าแพรพรรณ

•บรรยากาศพร้อมพรักงามนักเทียว

คนท่องเที่ยวมากล้นทุกชนชั้น

ทั้งโรงงานอุตสาหกรรมทำทั่วกัน

ยิ่งผลักดันแม่สอดทอดยาวไกล

•ป่าเคยเอื้อมากมายให้ท้องถิ่น

คนลืมสิ้นน่าระทมตรมหมองไหม้

ถูกทำลายล้างผลาญร้าวรานไป

เพียงหวังได้เหลือเกินคือเงินตรา

•ไม้ถูกตัดล้มโค่นจนกล่นเกลื่อน

ทำเครื่องเรือนของใช้ให้คุณค่า

เน้นตบแต่งออกแบบดีมีราคา

ยิ่งรวยกันยิ่งผลาญป่าอย่างท้าทาย

•ที่ป่าเขาคนเข้าบุกรุกจับจอง

ยึดครอบครองถือสิทธิ์ผิดกฎหมาย

ทำเกษตรอีกรีสอร์ทป่าวอดวาย

ไร้ยางอายทั้งรวยจนปล้นเข้าไป

•แม่สอดเอยวันหน้าอาจสะอื้น

ทั้งขมขื่นเกินผ่านมากว่าวันไหน

ธรรมชาติพาวิกฤตเกิดพิษภัย

ด้วยท้องถิ่นสิ้นป่าไม้ไว้คุ้มครอง

•ครูนิด วน.43(ชมรมสีเสียดแก่น) 1 มี.ค. 57

หมายเหตุ *บทสรุปจากเพลง “แม่สอดสะอื้น” ประพันธ์โดยครูพยงค์ มุกดา

 

แรงดลใจ;

เคยสัมผัสแม่สอดเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2520 ตอนนั้นประทับใจบรรยากาศของท้องถิ่นเป็นอย่างมากในวิถึชีวิตของผู้คนที่อยู่อย่างพอเพียงกลมกลืนกับธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าไม้ที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ทำให้หลงใหลไปกับบทเพลง “แม่สอดสะอื้น”  เป็นอย่างมาก เพราะเนื้อหา ทำนอง และดนตรีไพเราะเพราะพริ้ง ให้อารมณ์ และกินใจอย่างเหลือเกิน ยิ่งท่อนจบที่ถ่ายทอดอารมณ์ว่า “โถทรวงช้ำข้าจำฝืน ขมขื่น จะซบสะอื้นกับอ้อมอกใคร” ซึ่งผู้มีความหลังอาจต้องหลั่งน้ำตาได้  หากใครไม่รู้จักแนะนำให้ลองฟังสักครั้ง รับรองว่าจะติดใจอย่างแน่นอน ยกเว้นแต่คนที่ไม่มีสุนทรียภาพทางอารมณ์เท่านั้น

                   ได้มีโอกาสเยี่ยมเยียน แม่สอดอีกหลายครั้งแต่เป็นภายหลังจากที่ได้มีการส่งเสริมการค้าขายกับพม่าเป็นอย่างมาก เสน่ห์ของแม่สอดที่เคยสัมผัส กลับเปลี่ยนไปในทางตอบสนองอารมณ์ผู้คนที่เอนเอียงทางด้านวัตถุนิยมเป็นอย่างมาก มีทั้งการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม การขยายพื้นที่อยู่อาศัย การไหลทะลักของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชมบรรยากาศแตกต่างกันไป รวมทั้งผู้ที่นิยมธรรมชาติในด้านน้ำตกและป่าเขาลำเนาไพร ที่น่าเป็นห่วงคือการขยายพื้นที่เพาะปลูกพืชเกษตรเชิงเดี่ยวที่เน้นการใช้สารเคมีสังเคราะห์ ทำให้พื้นที่ป่าไม้ถูกบุกรุกทำลายเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นวิกฤติ ไม่นานช้าอาจเกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรง หากไม่รีบแก้ไขโดยเร่งด่วน ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง


 

 


Last updated: 2014-03-02 20:57:54


@ แม่สอด(อาจ)สะอื้น
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ แม่สอด(อาจ)สะอื้น
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
1,139

Your IP-Address: 18.97.14.80/ Users: 
1,138