.กราบสมเด็จฯพระราชชนนีพันปีหลวง

ซาบซึ้งทรวงพระกรุณาเมตตาให้

ทรงอำลาเสด็จสู่สวรรคาลัย

ปวงป่าไม้อาลัยรักยากพรรณนา

.ป่าดิบชื้น-ดิบแล้งแลดิบเขา

ต่างหงอยเหงาเศร้าจินต์ถวิลหา

ป่าสนเขาเฉาช้ำนองน้ำตา

เนิ่นนานมาพาเหลียวแลแม่ห่วงนัก

.ป่าชายเลนร้าวเปี่ยมว่าชีพจะขาด

ป่าชายหาดระงมไห้ด้วยใฝ่รัก

เหล่าพรรณไม้ไหม้หมองล้วนครองภักดิ์

แจ้งตระหนักพระคุณแม่แท้มากมาย

.ป่าพรุซึมสลดนักเกินจักห้าม

ป่าบุ่ง-ทามคร่ำครวญหาใจสลาย

แม่โอบอุ้มฟูมฟักเยี่ยมทักทาย

เป็นฝันร้ายกลายอดีตกรีดทรวงจริง

.ป่าเต็งรัง-ทุ่ง-หญ้า-เบญจพรรณ

แสนโศกศัลย์มวลพันธุ์ไม้ให้ทุกข์ยิ่ง

แม่จากลาค่าคำนึงเคยพึ่งพิง

สิ้นทุกสิ่งอุปถัมภ์ระกำทรวง

.ผองป่าไม้ใฝ่สนองคุณก่องเก็จ

กราบสมเด็จฯพระราชชนนีพันปีหลวง

ทุ่มใจกายหมายผลดีมีทั้งปวง

ธ ทรงห่วงประชาไทยหมายร่มเย็น

.สมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์

(ครูนิด วนศาสตร์ ร้อยคำ 28 ต.ค.68)

หมายเหตุ: ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบ

แรงดลใจ: ตื่นขึ้นมาราวเกือบตีสี่ของวันที่ 25 ตุลาคม 2568 สิ่งแรกที่ทำก็คือคว้าโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมาอ่านไลน์ตามความเคยชิน ได้พบข้อความจากคุณชาย:สุรศักดิ์ หล่อจิตต์เสียง เพื่อนร่วมรุ่นวนศาสตร์ 43 ที่ส่งภาพถ่ายเอกสารของสำนักพระราชวัง ประกาศเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2568 แจ้งว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรณคต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2568 เวลา 21.21 น. สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93

อ่านจบแล้วรีบตรวจสอบข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์อื่นเพิ่มเติม พบว่าเป็นข่าวจริงที่สร้างความรู้สึกเศร้าใจและอาลัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะอยู่ในความทรงจำส่วนตัวตลอดมาตั้งแต่จำความได้ เกี่ยวกับพระองค์ท่านได้ทรงเคยเสด็จพระราชดำเนินเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในการทรงเยี่ยมราษฎร พสกนิกรชาวไทยอยู่เสมอ ในทั่วทุกจังหวัดของทุกภูมิภาค รวมทั้งพื้นที่ชนบทที่อยู่ห่างไกล แม้แต่ในป่าดงพงไพรที่ทุรกันดารเพียงใดก็ตาม เพื่อทรงนำข้อมูลมาประกอบการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วไปให้ดียิ่งขึ้น

ในส่วนงานทางด้านการป่าไม้ ทั้ง 2 พระองค์ท่าน ทรงให้ความสำคัญมาโดยตลอด ทรงมุ่งหวังให้กิจการในด้านต่างๆได้มีการดำเนินการตามหลักวิชาการอันเหมาะสม โดยมีเป้าหมายสำคัญในการให้ป่าไม้ทุกประเภทและทุกชนิดในทุกแห่งของประเทศมีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อส่งผลต่อคุณค่าและประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นและสังคมทั่วไป รวมถึงการเผื่อแผ่ไปยังภูมิภาคอื่นของโลกอีกด้วย จึงมีหลากหลายงานที่ทรงริเริ่มให้ชาวป่าไม้และผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปประยุกต์ใช้ ให้เหมาะสมกับบริบทของตน รู้สึกประทับใจและชื่นชอบกับพระราชเสาวนีย์ ที่พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2525 ณ บ้านถ้ำติ้ว อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ความตอนหนึ่งว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า.....”

ได้มีโอกาสหารือกับ ผศ.ดร.วันชัย อรุณประภารัตน์ นายกสมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์คนปัจจุบัน และอดีตคณบดีคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 มีความเห็นตรงกันว่าในวโรกาสที่พระพันปีหลวงเสด็จสู่สวรรคาลัย พวกเราชาวป่าไม้ควรเป็นตัวแทนของป่าทั้ง 2 ประเภทที่พบในประเทศไทย ได้แก่ประเภทป่าไม่ผลัดใบซึ่งประกอบด้วยป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าสนเขา ป่าชายเลน ป่าชายหาด ป่าพรุ ป่าบุ่งและป่าทาม รวมทั้งประเภทป่าผลัดใบซึ่งประกอบด้วยป่าเต็งรัง ป่าทุ่ง ป่าหญ้าและป่าเบญจพรรณ ในการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ กับทั้งจะได้มุ่งมั่นสร้างประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยตามพระปณิธานของพระองค์ท่านอย่างแท้จริง

Last updated: 2025-10-29 19:05:26